รีวิวเกม God of War Ragnarok กับบทสรุปของเทพเจ้าสงคราม

รีวิวเกม God of War Ragnarok กับบทสรุปของเทพเจ้าสงคราม Kratos ที่น่าจะรอดชีวิตจาก Blade of Olympus อยู่ดี ๆ ก็มาโผล่ใน Midgard หลังจากที่ปล่อยให้ผู้เล่นต่างสงสัยในชะตากรรมของเขาว่าเป็นตายร้ายดียังไง God of War (2018) เป็นเกมที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเล่าเรื่อง และมาตรฐานการทำเกมของ Sony Interactive Entertainment ได้เป็นอย่างดี จนได้รับรางวัล Game of the Year ในปีนั้นไป
God of War Ragnarök คือเรื่องราวที่จะเข้ามาสานต่อฉากจบของภาค 2018 โดยจะเล่าเรื่องใน 3 ปีต่อมา ซึ่งแน่นอนว่าหากใครที่ไม่เคยเล่นภาค 2018 มาก่อน ก็จะไม่มีทางเข้าใจอะไรในภาค Ragnarök นี้ได้เลย และจะไม่สามารถปะติดปะต่อเนื้อเรื่องอะไรได้ ถึงแม้ตัวเกมจะมีวิดิโอย้อนหลังเล่าเรื่องราวในเกมภาค 2018 ให้เราฟัง แต่นั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ผู้เล่นใหม่ ที่ไม่เคยเล่นมาก่อนจะเข้าใจมันได้อย่างเต็มที่
สำหรับส่วนตัวผมแล้วนั้นมองว่า God of War Ragnarök เป็นเกมที่หาจุดยืนของตัวเองไม่ได้ ระหว่างสุดยอดหนังฮอลลีวูด หรือสุดยอดวิดีโอเกม ความรู้สึกของผมตลอด 30 ชั่วโมงหลังเล่นจบ ผมกลับรู้สึกเหมือนได้ดูหนัง Marvel สักเรื่อง แต่เป็นหนัง Marvel ที่มีปัญหาในการเล่าเรื่อง และบทสรุปของเรื่องราวที่ไม่น่าประทับใจสักเท่าไรนัก
ระบบ เกมเพลย์โดยไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากเดิมนัก แต่สิ่งที่ผมชอบอย่างนึงก็คือตัวเกมไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่า Kratos นั้นอ่อนแอลง หลังจากที่เราเหล่าผู้เล่นได้ฟาร์มเก็บสะสมค่าประสบการณ์ ชุด และอาวุธกันมาในภาค 2018 คราวนี้เปิดมาเราจะใช้อาวุธได้ทั้งสองแบบตั้งแต่เริ่มเลย
และก็ไม่ต้องสอน Atreus แล้ว ใช้เวลาขัดสนิมกันนิดหน่อย ก็จะคุ้นชินกับมันได้ โดยไม่นาน ส่วนตัวผมเล่นในระดับความยาก Give Me No Mercy (จงอย่าปรานีข้า) เป็นระดับที่ยากรองลงจาก Give Me God of War ครับ (จงมอบก็อดออฟวอร์ให้ข้า)
God of War Ragnarök เป็นเกม Action-adventure ที่มีความเป็น Open World นิด ๆ ผสมกับ RPG นิดหน่อย เหมือนกับภาคที่แล้วทุกอย่าง
โดยตัวเกมจะมีศูนย์กลางที่ตัวละครหลัก ๆ อย่าง Kratos, Atreus, Mimir ใช้ชีวิตอยู่ รวมไปถึงตัวละครอื่น ๆ ตามเนื้อเรื่อง และ Gameplay หลัก ๆ ก็จะเหมือนกับภาคแรกเป๊ะเลย สองพ่อลูกออกสำรวจ 9 อาณาจักร พร้อมเรียนรู้เรื่องราวของโลกต่าง ๆ ณ สถานที่ไปเยือน
ระบบต่อสู้ในเกมที่ยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือคราวนี้เราจะมีอาวุธใหม่ ที่นอกเหนือจาก Leviathan Axe และ Chaos Blade มาให้ใช้ด้วย ต้องยอมรับว่าตัวเกมในระดับ Give Me No Mercy นั้นมันสนุกมากเลย ด้วยการที่ส่วนตัวผมชอบเกมตระกูล Souls อยู่แล้ว มันทำให้ตลอดการเล่นนั้นเร้าใจ ยาก และท้าทายมาก ๆ
สรุป
God of War Ragnarök เป็นเกมที่ดี แต่ยังไม่ใช่เกมที่ยอดเยี่ยมที่สุด ผู้เล่นจะรู้สึกสนุกหากได้สัมผัสกับภาคก่อนมาแล้ว ในเกมนี้เราจะได้สานต่อเรื่องราวหลังจากฉากจบของ God of War (2018) การกลับมาของ Kratos และตัวละครอื่น ๆ อาจจะทำให้เราหายคิดถึงกันไปบ้าง แต่หลังจากนี้แล้ว เรื่องราวบทใหม่ของ God of War นั้นจะเป็นอย่างไร เราก็ยังไม่อาจทราบได้
- Gameplay ที่ยังสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ เหมือนเดิม
- เพลงประกอบที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี
- กราฟิกที่สวยงามตามมาตรฐานของ PS5
- การเล่าเรื่อง และการสรุปเรื่องราวที่ทำได้ไม่ดีเท่าไร
- ข้อจำกัดในความหลากหลายของการเล่น
ติดตามข่าวสารของเกมส์อื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ >>> เกมมัน.com
รีวิวเกม God of War Ragnarok กับบทสรุปของเทพเจ้าสงคราม